|
Written by Administrator
|
Tuesday, 24 April 2012 |
คนสมัยนี้ ก็ดูน้ำจิตน้ำใจแห้งแล้งกันทุกวัน ขนาดคนท้อง หรือคุณแม่อุ้มลูกน้อยขึ้นรถเมล์หรือรถไฟฟ้า เดี๋ยวนี้ก็ไม่ค่อยลุกให้นั่งกันแล้วค่ะ แกล้งหลับ หรือทำท่าทางไม่รู้ไม่เห็น เอาแต่แชตมือถืออยู่ตลอด ดังนั้น เราต้อง Change ค่ะ ต้องเริ่มปลูกฝังความรู้จักเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ให้เจ้าตัวเล็กเราตั้งแต่วัยเอ๊าะๆ นี่เลยค่ะ
ทำอาหารเลี้ยงเด็กกำพร้า
ลองถือโอกาสตีซี้คุณพ่อคุณแม่ของเพื่อนๆ ของลูก แล้วชักชวนกันไปเยี่ยมเด็กยากจนตามสถานสงเคราะห์ต่างๆ โดยอาจจะลงขันช่วยกันทำอาหารหรือทำขนมอร่อยๆ ไปเลี้ยงเด็ก หรือรวบรวมของเล่นต่างๆ หรือตุ๊กตาไปบริจาคก็ได้ แต่งานนี้ คงต้องบรรดาลูกๆ มีส่วนร่วมในการทำประกอบอาหารหรือขนมด้วยนะคะ เขาจะได้เกิดความภาคภูมิในใจในสิ่งที่ตัวเองทำเพื่อคนอื่นอย่างแท้จริง
เยี่ยมเยียนผู้สูงอายุ
วันหยุดเสาร์ - อาทิตย์ ปกติ คุณพ่อคุณแม่หลายท่านมักจะพาลูกเดินเล่นห้างสรรพสินค้า ถือโอกาสประหยัดแอร์บ้านไปในตัว ก็ให้ลองเปลี่ยนบรรยากาศพาไปเยี่ยมเยียนผู้สูงอายุที่สถานสงเคราะห์ผู้สูงอายุ ลองให้เด็กมีโอกาสป้อนข้าวป้อนน้ำ ตัดเล็บ หรืออ่านหนังสือให้ผู้เฒ่าผู้แก่ฟัง
เชื่อเลยว่า แรกๆ เด็กอาจจะอิดออดนิดนึงค่ะ เพราะไม่มีสิ่งเร้าใจ ให้น่าตื่นเต้นตามประสาเด็กๆ เท่าไหร่ แต่เชื่อเถอะค่ะ นานๆ ไป เขาจะเกิดความสุขใจของการรู้จักให้ และเผลอๆ อาจได้รับแง่มุมชีวิตที่ดีๆ จากการพูดคุยผู้เฒ่าผู้แก่มาปรับใช้ในชีวิตของตัวเองก็ได้
บริจาคเสียง
เห็นเด็กหลายๆ คน ใช้เวลาว่างๆ ด้วยการเป็นอาสาสมัครช่วยอ่านหนังสือบันทึกเสียงให้คนตาบอดของห้องสมุดคนตาบอด (www.tab.or.th) ซึ่งการอ่านหนังสือบันทึกเสียงสามารถทำได้ที่บ้านค่ะ ไม่ต้องเดินทางให้เหนื่อยกับการจราจรแออัดแต่อย่างใด งานนี้ ก็เกิดผลประโยชน์มหาศาลค่ะ ทั้งได้ความรู้จากการอ่านหนังสือที่หลากหลาย การฝึกสมาธิให้จดจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งนานๆ (ทำให้การเรียนดีขึ้นแน่นอน) นอกจากนี้แล้ว ยังได้ช่วยเหลือผู้พิการทางสายตา หรือคนที่ไม่สามารถอ่านหนังสือได้ เป็นการทำบุญที่ตีเป็นมูลค่าไม่ได้เลย
เริ่มจากที่บ้าน
สิ่งที่ยิ่งใหญ่ทุกอย่างในโลกนี้ ก็เริ่มต้นจากสิ่งเล็กๆ ที่บ้านนี่แหล่ะค่ะ ก็เป็นเรื่องจำเป็นมาก ที่คุณพ่อคุณแม่ควรมีเวลาให้ลูกสม่ำเสมอ ด้วยการสอนลูกให้รู้จักรับผิดชอบ ช่วยเหลือตัวเองได้ และเปิดโอกาสให้ลูกรู้จักคิดเองบ้าง พร้อมกับสอนลูกให้เรียนรู้เรื่องการรู้คุณและการตอบแทนผู้มีพระคุณอย่างปู่ย่าตายาย ญาติสนิทที่เคยจุนเจือกันมาก่อน และที่สำคัญก็คือ การสอนให้นึกถึงส่วนรวม ประเทศชาติและโลกที่เราอยู่ เช่น การทิ้งขยะให้เป็นที่เป็นทาง การลดใช้ถุงพลาสติกโดยไม่มีความจำเป็น หรือรู้จักประหยัดการใช้ไฟฟ้า เป็นต้น
ไม่ใช่แค่เก่งอย่างเดียว
ไม่แปลกที่พ่อแม่ทุกคนย่อมอยากให้ลูกตัวเองเป็นคนเก่ง มีความสามารถ ทำให้แข่งกันเรียนอย่างเอาเป็นเอาตาย วันหยุดเสาร์ - อาทิตย์ หรือปิดเทอม เด็กแทบไม่มีเวลาพักผ่อน แต่จะมีประโยชน์อะไรคะ ถ้าลูกเติบโตขึ้นมาแล้วไร้ซึ่งความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ความกตัญญูและความอ่อนน้อมถ่อมตน ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์และคุณค่าของความเป็นไทยเรามาอย่างช้านาน
แสดงแบบ ด.ช.ภัทรกร ขุนพรหม (น้องมิว)
|
|
|
|
|
|