|
นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ Jacinda Ardern |
|
|
|
Written by Administrator
|
Thursday, 03 May 2018 |
“การร่วมรณรงค์ทำให้เธอได้เป็นสมาชิกพรรคแรงงานตั้งแต่อายุยังน้อย และไม่นานเธอก็เด่นในฐานะผู้นำ” โลกมีผู้นำหญิงมากแล้ว แต่ผู้นำหญิงตั้งครรภ์ระหว่างดำรงตำแหน่งยังนับจำนวนได้ ซึ่งคนแรกและคนก่อนหน้าก็คือ Benazir Bhutto อดีตประธานาธิบดีปากีสถานที่ล่วงลับ ซึ่งตั้งครรภ์ปี 2532 และคลอดบุตรสาวปีต่อมา ส่วนผู้นำคนที่กำลังทำแบบเดียวกันคือ จาซินดา อาร์เดิร์น นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ ที่ประกาศการตั้งครรภ์แรกของเธอวันที่ 19 มกราคมปีนี้ และย้ำ เธอมีกำหนดคลอดเดือนมิถุนายน แต่ความเป็นผู้นำแปลกของเธอยังไม่ใช่เท่านั้น เพราะเธอยังเป็นผู้นำหญิงที่ไม่ได้ผ่านพิธีแต่งงานและจดทะเบียนสมรส โดยอยู่กินกับ Clarke Gayford ตำแหน่ง first partner หรือคู่นอนหมายเลขหนึ่ง ตั้งแต่ 5 ปีที่แล้ว เขาเป็นพิธีกรรายการโทรทัศน์มีชื่อ โดยทำรายการเกี่ยวกับกีฬาตกปลาที่เขาชอบตั้งแต่เด็กและเชี่ยวชาญ ทั้งสองพบกันหลังฝ่ายชายไม่พอใจ ส.ส. ในเขตที่อาศัย ดังนั้นจึงร้องเรียนไปยังฝ่ายหญิง ซึ่งขณะนั้นเป็นรองหัวหน้าพรรคแรงงาน ทั้งสองนัดพบกัน การพบที่ทำให้ได้รู้ต่างชอบดนตรีแนวเดียวกัน จึงชวนกันสร้างความใกล้ชิด ด้านหนึ่งคือ การออกเดท ซึ่งครั้งแรกสำหรับทั้งสองเป็นไปอย่างที่ทุกคนคาด นั่นคือ การไปตกปลา และระหว่างนั้นอาร์เดิร์นตกได้ปลากระพงหนัก 5.5 กิโลกรัม หญิงเก่งนิวซีแลนด์คนนี้เกิดวันที่ 26 กรกฎาคม 2523 ดังนั้นตอนนี้อายุเธอจึงย่างเข้า 38 ปี และนี่เป็นอีกความแปลกของเธอที่เป็นผู้นำรัฐบาลอายุน้อยที่สุดในโลก โดยยังเป็นตั้งแต่ปีที่แล้ว ตอนเธออายุ 37 ปี ตอนยังเล็กอาร์เดิร์นอยู่ในครอบครัวที่มีพ่อเป็นตำรวจ และแม่เป็นผู้ช่วยผู้ดูแลการจัดส่งอาหารให้โรงเรียน การเข้าสู่วงการเมืองเริ่มตั้งแต่เธอยังวัยรุ่น เมื่อป้าเธอที่เป็นสมาชิกพรรคแรงงานมาช้านาน ชวนเธอให้ไปร่วมรณรงค์หาเสียงให้สมาชิกพรรคคนหนึ่งที่ลงสมัครรับเลือกตั้ง และปรากฏว่าได้รับชัยชนะ การร่วมรณรงค์ทำให้เธอได้เป็นสมาชิกพรรคแรงงานตั้งแต่อายุยังน้อย และไม่นานเธอก็เด่นในฐานะผู้นำกลุ่มหนุ่มสาวชาวพรรคแรงงาน หลังรับปริญญาตรีการศึกษาเพื่อการสื่อสารการเมืองและการประชาสัมพันธ์จากมหาวิทยาลัยแห่งไวคาโตปี 2544 อาร์เดิร์นเข้าทำงานเป็นนักวิจัยประจำตัวนักการเมืองนิวซีแลนด์คนสำคัญ จากนั้นเธอตระเวนรอบโลกจนได้งานเป็นอาสาสมัครในครัวเลี้ยงดูคนยากในมหานครนิวยอร์ค ประสบการณ์ที่ทำให้เธอได้เรียนรู้ถึงชีวิตความเป็นอยู่ของคนยากไร้ ครั้นแล้วเธอเดินทางไปกรุงลอนดอน และได้งานเป็นผู้ให้คำแนะนำด้านนโยบายในคณะทำงานของโทนี แบลร์ ซึ่งตอนนั้นกำลังเป็นนายกรัฐมนตรีอังกฤษ ทั้งนี้ในปี 2551 อาร์เดิร์นได้รับเลือกเป็นประธานสหพันธ์เยาวชนสังคมนิยมนานาชาติ และนี่คงเป็นเหตุผลที่เธอได้ทำงานให้แบลร์ นอกเหนือจากได้เดินทางเยือนหลายประเทศ รวมทั้งจีนและประเทศในแอฟริกา อาร์เดิร์นเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฏรนิวซีแลนด์ปีเดียวกับที่ได้รับเลือกเป็นประธานสหพันธ์ฯ โดยหลังแพ้การเลือกตั้งสมาชิกเขตในปีนั้น คะแนนเสียงยังพอที่จะทำให้เธอได้เป็นสมาชิกบัญชีรายชื่อ และเป็นจนถึงปีที่แล้ว เธอจึงลงสมัครเป็นสมาชิกเขตอีกครั้ง และไม่นานหลังชนะเลือกตั้ง เธอก็ได้รับเลือกด้วยคะแนนเอกฉันท์ให้เป็นรองหัวหน้าพรรคแรงงาน แทนคนก่อนหน้าที่เป็นสตรีเช่นเดียวกับเธอและขอลาออก เป็นรองหัวหน้าไม่กี่เดือนเธอก็ได้รับเลือกให้เป็นหัวหน้า หลังการลาออกของหัวหน้าคนก่อน โดยลาออกก่อนจะมีการเลือกตั้งทั่วไปในเดือนกันยายน เพราะผลสำรวจความเห็นได้ชี้ประชาชนให้ความนิยมพรรคน้อยลง ผลการเลือกตั้งปรากฏว่า พรรคแรงงานภายใต้ผู้นำหญิง ถึงแม้จะได้ที่นั่งในสภาฯ น้อยกว่าพรรคคู่แข่ง 10 ที่นั่ง คือ 46 ที่นั่ง เทียบกับ 56 ที่นั่ง แต่ก็มากกว่าที่พรรคเคยได้รับในการเลือกตั้งครั้งก่อนถึง 14 ที่นั่ง มีการเจรจาระหว่างพรรคการเมืองเพื่อตั้งรัฐบาลผสม และในที่สุดอาร์เดิร์นก็ได้เป็นนายกรัฐมนตรี มีการจับตาการขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีของอาร์เดิร์นจะทำให้นิวซีแลนด์เด่นขึ้นมาอีกด้านสิทธิเด็กและสตรี เพราะเธอมีชื่อเสียงด้านนี้อยู่แล้ว โดยเคยเป็นทั้งรัฐมนตรีดูแลเด็กเสี่ยงกับรัฐมนตรีดูแลการลดความยากจนในหมู่เด็ก ทั้งนี้ความเด่นที่มากขึ้นของนิวซีแลนด์ ยังอาจทำให้สิทธิเด็กและสตรีในโลกดียิ่งขึ้น บรรยายภาพ 1. ไม่กี่วันหลังประกาศตั้งครรภ์ 2. สนใจสิทธิและความเป็นอยู่ของเด็ก 3. หลานสาวหลังรับตำแหน่งผู้นำนิวซีแลนด์ 4. มีขายแล้วเสื้อยืดว่าที่คุณแม่หมายเลขหนึ่ง
|
|
|
|
|
|