เปิดคอลัมน์ Star Chef มาสามปีกว่าๆ นับแล้วก็ไล่พาตระเวนชิมร้านอาหารดารานักร้องนางแบบ แม้กระทั่งนักเขียนก็เคยไป ร่วมๆ สี่สิบร้านแล้ว มานึกอีกที ไม่เคยเจอดาราคนไหนเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลาสักราย หรือเคยเปิดกันแล้ว แต่ไม่เคยแวะไปชิมก็ไม่รู้แฮะ จนกระทั่งมีพรายกระซิบว่า มีดารานายแบบคนหนึ่งเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลาน่าทานอยู่แถวสนามบิน ชื่อว่า โต๊ะจีน อ่ะแฮะ อย่างนี้พลาดไม่ได้แล้วค่ะ
ว่าแล้วน้องยิก็เลยเดินทางตรงรี่ไปที่สนามบินโดยด่วน ส่วนคนที่ไปไม่ถูก งงๆ ว่าสนามบินน้ำอยู่ที่ไหน ฟังทางนี้ค่ะ เอาเป็นว่าหาทางมาสี่แยกแคลายให้ได้ จากนั้นก็ไม่ยากแล้วค่ะ สังเกตป้าย ขับไปตามทาง จะมียูเทิร์นอยู่ จากนั้นเลี้ยววน แล้วมุ่งตรงเข้ามา ถนนทั้งเลนตอนนี้มีร้านอาหารเปิดกันให้พรึ่บค่ะ แต่อย่าเพิ่งตาลาย ถอดใจแวะเข้าร้านไหนซะก่อน สังเกตฝั่งซ้ายไว้ค่ะ จะเจอร้านโต๊ะจีนอยู่ติดกับครัวช้อนทอง ให้จอดรถริมทาง แล้วเดินเข้ามาชิมก๋วยเตี๋ยวปลารสเด็ดกันได้เลยค่ะ
แต่อ๊ะ อย่าเพิ่งแปลกใจเชียว เดี๋ยวจะหาว่าน้องยิพามาผิดร้าน เห็นเป็นเพิงๆ ไม่หรูหรา หรือมีโต๊ะจีนกลมๆ ตั้งอยู่สมชื่อ แต่นี่ล่ะค่ะ มาถูกแล้ว ส่วนชื่อร้านก็มีที่มา ซึ่งจะไขข้อสงสัยในช่วงท้ายๆ ให้ฟังค่ะ แหม แค่พามาทานก๋วยเตี๋ยว จะปริศนาอะไรกันนักกันหนา ฮะฮ่าฮ่า เริ่มสงสัยแล้วสินะคะ ว่าเป็นร้านของใคร ใบ้อีกนิดก็ได้ค่ะ ลองสังเกตโปสเตอร์หนังที่ติดอยู่ในร้านดูสิ

คงจะถึงบางอ้อกันไม่ยากค่ะ
ใช่เลยค่ะ ร้านนี้เป็นของนายแบบหนุ่ม คุณหมอก-ทศพร รถกิจ นั่นเอง ร้านนี้จึงมีชื่อเล่นอีกชื่อ คือ ร้านนายหมอก ซึ่งถ้าไปเจอนายหมอกเปิดบูธขายอยู่ที่ไหน แสดงว่าเป็นร้านเดียวกันแน่นอนค่ะ ถ้าสะดวกที่นั่น ก็ชิมตรงนั้นได้เลย แต่ถ้าสะดวกแถวนี้หรือมีโอกาสแวะผ่านมา ก็อย่าเลยผ่านไป ลองเข้ามาทานดูก่อน แล้วจะติดใจ เหมือนที่น้องยิกำลังติดใจนี่ล่ะค่ะ
ลำดับเรื่องราวของนายหมอกนิดนึง ตอนเข้าวงการใหม่ๆ เขาก็อายุรุ่นพอๆ กับน้องยินี่ล่ะค่ะ จำได้ว่าตอนนั้นหล่อเฟี้ยว คมเข้ม กำลังอินเทรนด์เลยล่ะ ก็เริ่มไต่เต้าจากเวทีหนุ่มสาวแพรวก่อน โดยได้รับรางวัลชนะเลิศ จากนั้นก็มีผลงานถ่ายแบบ และเล่น MV กับอาร์เอส ต่อด้วยงานโฆษณาและงานละครมากมาย ส่วนงานภาพยนตร์ เท่าที่จำได้ ล่าสุด คือเรื่อง ไทยถีบ และ เสือภูเขา ที่รับบทเป็นพระเอกผู้มาจากแดนไกล
จากนายแบบ ไหงกลายมาเป็นพ่อค้าขายก๋วยเตี๋ยวเสียได้ ทั้งๆ ที่ดารารุ่นเดียวกันคนอื่นๆ เปิดร้านอาหารสไตล์นั่งฟังเพลงกันหมด คำตอบนั้นก็ต้องถามคุณหมอกนี่ล่ะค่ะ คุณหมอกเล่าว่า
เริ่มจากมีญาติทำโรงงานลูกชิ้นปลา ก็เลยคิดว่าน่าจะนำมาต่อยอด เลยพัฒนามาเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลา ส่วนเครื่องปรุงต้มยำ น้ำซุป และไอเดียการดีไซน์รสชาติ หน้าตาอาหาร การตกแต่งร้าน เป็นฝีมือตัวเองทั้งหมด
ระหว่างที่นั่งคุยกับคุณหมอก สักพักคุณแม่ของคุณหมอกก็ยกเมนูก๋วยเตี๋ยวมาให้ลองทาน สีสันจี๊ดจ๊าดน่าทานเลยทีเดียว แปลกจากเย็นตาโฟที่เคยเห็นทั่วไป งานนี้ถ่ายเสร็จ เลยชิมกันเลย
ตักเข้าปากปุ๊บ อื้อหืม.. สมคำคุยจริงๆ ค่ะ ขนาดเย็นตาโฟยังเผ็ดซี๊ดซ๊าดแซ่บลิ้นขนาดนี้ แล้วถ้าเป็นต้มยำเพียวๆ จะต้องซดน้ำตามขนาดไหน
บ่นเล่นๆ สงสัยคุณหมอกจะได้ยินจริงๆ คราวนี้เลยยก ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ มาเสิร์ฟ หน้าตาก็แบบต้มยำน้ำจ้นเลยค่ะ มองทีแรกนึกว่าก๋วยเตี๋ยวแกง แต่รสอ่อนกว่า ซดน้ำเข้าไป ทั้งนุ่ม ทั้งเผ็ด เคล้าผสมกันอย่างลงตัว นับว่าเป็นต้มยำที่โดดจากร้านอื่นจริงๆ มาแล้วสั่งทานเย็นตาโฟ ก็อย่าลืมลองสั่งต้มยำมาทานคู่กันนะคะ จะได้เทียบรสชาติกันดู
เผ็ดลิ้นแบบนี้ ก็ควรมีของแกล้มมากลบค่ะ จะช่วยได้มาก แนะนำคือ เกี๊ยวกรอบ ซึ่งเกี๊ยวกรอบที่นี่ ก็กรอบสมชื่อจริงๆ กัดที กร๊วบๆ แตกกระจายเต็มปาก จะทานเพียวๆ หรืออยากเปลี่ยนรส ก็แค่จิ้มน้ำจิ้มที่เสิร์ฟมาพร้อมกัน ซึ่งน้ำจิ้มที่นี่นะ รสชาติ โหย.. ขอบอก อร่อยแบบนี้ จัดใส่ขวดขายเลยดีกว่าไหมคะ อยากซื้อกลับบ้านจริงๆ ค่ะ
ส่วนลูกชิ้น ทำจากเนื้อปลาล้วนๆ สด สะอาด และปลอดภัย เนื้อจะหนึบๆ หน่อย เป็นสไตล์ลูกชิ้นสมุนไพรที่ผสมผักลงไปด้วย อยากทานแบบเต็มอิ่ม แนะนำให้สั่ง รวมมิตรลูกชิ้นปลา มีราคา ชุดเล็ก 40 บาท และ ชุดใหญ่ 80 บาท อยากทานลูกชิ้นกลม ลูกชิ้นรักบี้ หรือฮือก้วย มากกว่ากัน ก็บอกเขา เดี๋ยวจัดให้

รวมมิตรลูกชิ้นปลา ชุดเล็ก 40 บาท ชุดใหญ่ 80 บาท	เกี๊ยวกรอบ 40 บาท
ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นเย็นตาโฟ 40 บาท	ปลากะพงลวกจิ้ม 40 บาท

นอกจากเมนูดุเดือด เผ็ดมัน และหนักท้องแล้ว ที่ร้านยังมีเมนูเบาๆ อย่าง ปลากะพงลวกจิ้ม ด้วยนะ โดยใช้ปลากะพงเนื้อดี แล่แบบไม่ทิ้งก้าง ลวกแล้วยกมาเสิร์ฟอุ่นๆ อร่อย เคี้ยวเพลินดีค่ะ รักสุขภาพ ก็อย่าลืมสั่งทานนะคะ
นอกจากเมนูที่แนะนำไปแล้ว ที่ร้านยังมีบริการหมูสะเต๊ะ ซาลาเปา ขนมจีนด้วยนะ ซึ่งปกติถ้ามา ก็จะได้เจอคุณหมอกนี่ล่ะ รับออเดอร์ ลวกก๋วยเตี๋ยว ปรุงเครื่องต้มยำ ปิ้งหมูสะเต๊ะ เองเลย ซึ่งถ้ากลัวมาแล้วจะไม่ได้โต๊ะ ก็โทรมาถามก็ได้ค่ะ ตั้งแต่ 09.00 นาฬิกา หรือใครอยู่แถวนั้น อยากทาน แต่ไม่อยากรอ ก็โทรมาออเดอร์ไว้ก่อนก็ได้ค่ะ
และที่ติดไว้ว่า ทำไมร้านนี้จึงชื่อว่า โต๊ะจีน ก็มาถึงบางอ้อ ตอนที่สาวน้อยจิ้มลิ้มคนหนึ่งเดินเข้ามาในร้าน เธอชื่อ จีน ค่ะ เป็นแฟนคุณหมอกนั่นเอง จึงเป็นที่มาของชื่อร้านประการฉะนี้
แหม! มีแม่มาช่วยขาย มีแฟนมาช่วยคุม แล้วอย่างนี้จะให้นายหมอกไปไหนได้ไกลล่ะนั่น

น้องยิ

ความเห็น (1)

เกาะติดความเคลื่อนไหวการแสดงความเห็นของหัวข้อนี้

1

June 18, 2010

58.64.17.2

Votes: +0

• 
• 
• 

...

เขียนแสดงความเห็น

Email Name		Comment smaller | bigger
		ยอมรับข้อตกลงในการแสดงความเห็น ข้อตกลง แสดงความเห็น Preview