เติมเต็ม E.Q. ยิ่งเร็ว ยิ่งดี |
|
|
|
Written by Administrator
|
Wednesday, 13 July 2011 |
มีคำสุภาษิตจีนโบราณบอกว่า “นกไร้ขน คนไร้เพื่อน ยากจะขึ้นสู่ที่สูงได้” ซึ่งหมายความว่า คนเราแม้จะเก่งกาจสักเพียงใด แต่ถ้าปราศจากสหายที่รู้ใจ และผู้คนรอบข้างคอยสนับสนุน ก็ย่อมยากที่จะเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงานได้เจ้าค่ะ คมสุดๆ วันนี้ อิ อิ ซึ่งภาษาฝรั่งเขาเรียกเจ้าสิ่งนี้ว่า “E.Q.” ชื่อย่อของ Emotional Quotient หรือเชาว์อารมณ์ (Emotional Intelligence) นั่นเอง
EQ แตกต่างจาก IQ
เจ้า EQ (Emotional Quotient) สามารถพัฒนาได้ตั้งแต่เด็กๆ จนถึงวัยหง่อมอย่างเราๆ เลยค่ะ ส่วนเจ้า IQ (Intelligence Quotient) อย่างที่รู้ๆ กันดีก็มีโอกาสพัฒนาให้ดีขึ้นได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ดังนั้น คนที่มีไอคิวดี ก็คือคนที่สามารถเข้าใจอารมณ์ของตัวเองตามความเป็นจริงได้ดี มีอารมณ์มั่นคง เมื่อมีอารมณ์ที่ไม่ดี เช่น โกรธ เศร้า ผิดหวัง ก็สามารถปรับเข้าสู่สภาวะปกติได้เร็ว รู้จักอดทน และมีความรอบคอบก่อนการตัดสินใจ จนถึงทักษะเข้าสังคมกับผู้อื่นได้เป็นอย่างดี
EQ หนูดีได้ เริ่มจากพ่อแม่
การที่จะให้ลูกน้อยเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีอีคิวดีได้ ก็ต้องได้รับการพัฒนาคุณลักษณะเหล่านี้ตั้งแต่เล็กๆ ค่ะ
- แบบอย่างที่ดี บางทีเราไม่ต้องพูดต้องสอนอะไรเลย แค่เป็นตัวอย่างดีๆ ให้ลูก เขาก็จะเรียนรู้โดยอัตโนมัติ ตัวอย่าง หากพ่อแม่เป็นอารมณ์มั่นคง ไม่แสดงอารมณ์โกรธ โมโหง่าย น๊อตหลุดบ่อยๆ ลูกก็จะก๊อปปี้ลักษณะเช่นนั้นมา หรือถ้าอยากให้ลูกรักการอ่าน คุณพ่อคุณแม่ก็ต้องหยิบหนังสือขึ้นมาอ่านบ่อยๆ รวมทั้งที่บ้านก็ควรเต็มไปด้วยหนังสือมากมาย ที่สำคัญอย่าลืมอ่านนิทานให้ลูกฟังประจำด้วยค่ะ
- รักนะ ต้องแสดงออก ความรักชนะทุกอย่างค่ะ เรียกได้ว่า เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดก็ว่าได้ค่ะ คุณแม่อาจไม่เท่าไหร่ แต่สำหรับคุณพ่อบางคนอาจรักลูกก็จริง แต่ไม่ค่อยกล้าพูด กล้าแสดงความรักตามสไตล์ผู้ชายทั่วๆ ไป ก็ให้ลองหาวิธีแสดงออกอย่างเหมาะสม เช่น การสัมผัส การกอด หรือโอบไหล่ก็ได้ ล้วนแล้วแต่เป็นภาษารักที่ดีเช่นเดียวกัน
- เวลาคุณภาพ บางครอบครัวพ่อแม่อาจทำงานด้วยกันทั้งคู่ ช่วงกลางวันอาจปล่อยให้ปู่ย่าตายาย หรือไฮโซหน่อยก็อาจมีพี่เลี้ยงเฉพาะกิจ แต่เมื่อเลิกงานแล้ว แม้จะเหนื่อยขนาดไหนก็ตาม อย่ามัวแต่ดูแต่ทีวี ควรใช้เวลาคุณภาพอยู่ใกล้ชิด เลี้ยงดูลูกให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ค่ะ
- สมองซีกขวา หลายคนงงเกี่ยวอะไรด้วย ซึ่งเจ้าสมองซีกขวา ทำหน้าที่เกี่ยวกับอารมณ์ ความคิดสร้างสรรค์ ดังนั้น ควรหากิจกรรมฝึกสมองซีกขวาของลูกน้อยให้พัฒนามากขึ้น เช่น การเล่านิทาน กิจกรรมการเล่นต่างๆ เล่นกีฬา การเดินทางท่องเที่ยว ฟังดนตรี และศิลปะ เป็นต้น
EQ การลงทุนที่คุ้มค่า
มีนักฟิสิกส์ชาวอเมริกาผู้เก่งกาจอยู่ท่านหนึ่งชื่อ วิลเลียม ชอกลีย์ (William Shockley) ซึ่งคว้ารางวัลโนเบล เมื่อปี พ.ศ. 2499 จากการประดิษฐ์ทรานซิสเตอร์ ซึ่งเป็นชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์สำคัญได้เป็นคนแรกของโลก แต่เมื่อเขามาเปิดโรงงานผลิตทรานซิสเตอร์ ณ ซิลิกอน แวลลีย์ สหรัฐฯ ก็ไม่เป็นที่ยอมรับในเชิงการบริหารและวิสัยทัศน์ทางด้านธุรกิจจากผู้ร่วมงาน ซึ่งเป็นตัวอย่างให้เห็นว่า คนที่มีความเฉลียวฉลาดทางสติปัญญาก็อาจจะไม่ประสบความสำเร็จในชีวิตก็ได้
แสดงแบบ ด.ญ.เจสสิก้า แอนส์ซัน (น้องเจสสิก้า)
|
Last Updated ( Wednesday, 13 July 2011 )
|