Written by Admin
|
Monday, 17 February 2020 |
“คุณแม่มักเป็นบุคคลที่รู้จักวิสัยทัศน์ ทั้งการมีและการใช้”
มาแรงจากกระแสสตาร์ทอัพที่พัดแรงในสหรัฐอเมริกาและแผ่ขยายไปทั้งโลก สตาร์ทอัพหรือกิจการเปิดใหม่ที่สะกดภาษาอังกฤษ startup ซึ่งได้รับการยอมรับแล้วว่า กำลังเป็นแรงผลักดันสำคัญให้โลกก้าวหน้า รวมทั้งไทยเองก็ยอมรับดูจากการเปิดองค์กรใหม่ๆ เพื่อสนองการเข้ามาของผู้ประกอบการใหม่ที่ริเริ่มเปิดกิจการของตัวเอง
กระแสสตาร์ทอัพมาแรงหลายปีแล้ว เริ่มจากการอยากเป็นบิล เกตส์ อยากเป็นสตีฟ จ๊อบส์ และอยากเป็นอีลอน มัสก์ ความอยากที่กระจายไปทั่ววงวัยรุ่นสมัยทศวรรษที่ผ่านมา จนทุกวันนี้แม้เรียนมัธยม เด็กอเมริกันยังเปิดกิจการของตัวเอง ไม่ต้องรอเรียนจบมหาวิทยาลัยและทำงานหาประสบการณ์เหมือนสมัยก่อน
และทำไปๆ กระแสสตาร์ทอัพก็คืบคลานถึงบรรดาคุณแม่อเมริกัน เพราะสื่อออนไลน์เปิดให้คุณแม่ทำกิจการของตัวเอง ทำพร้อมๆ กับทำงานบ้านและเลี้ยงลูก แต่เหนืออื่นใดมีการค้นพบผู้หญิงที่มีภาวะเป็นคุณแม่มีความเหมาะสมที่จะเป็นผู้ประกอบการ เพราะการเป็นแม่ได้ปลูกฝังนิสัยที่ผู้ประกอบการทุกคนควรมี ซึ่งมีอะไรบ้าง?
อันดับแรก เมื่อผู้หญิงได้เป็นคุณแม่สิ่งที่จะได้รับจากการเป็นก็คือ การรู้จักจำแนกและมอบหมายความรับผิดชอบ ซึ่งคุณสมบัตินี้ผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จต่างมี ไม่มีไม่ได้ จะต้องมี เพราะแค่การค้นพบช่องทางประกอบการอย่างเดียวยังไม่พอ จะต้องค้นพบช่องทางหาคนมาช่วยพร้อมกัน
เพราะการประกอบการมีงานที่ต้องทำหลายด้าน โดยบางด้านยังอาจเป็นสิ่งใหม่ไม่เคยรู้และทำมาก่อน ดังนั้นจึงต้องหาคนช่วย ประเด็นนี้ผู้ประกอบการที่เป็นคุณแม่ได้เปรียบ เพราะตั้งแต่ตั้งครรภ์ทุกคนต่างต้องวางแผนคลอดและเลี้ยงลูก โดยทั้งคลอดและเลี้ยงลูกต่างต้องหาทั้งคนและอุปกรณ์มาช่วย อีกทั้งหาแล้วยังต้องจำแนกงาน ลำดับความสำคัญ และแจกจ่ายงานให้เหมาะสม
ยังไม่พูดถึงงานที่ตัวเองจะต้องทำ คนอื่นทำให้ไม่ได้ ทั้งหมดนี้พอเป็นผู้ประกอบการคุณแม่จะนำมาใช้ในการบริหารจัดการ เพราะถูกปลูกฝังไว้แล้วในจิตใจ
อันดับที่สองผู้ประกอบการที่เป็นคุณแม่มักรู้วิธีทำงานให้เสร็จเร็ว คือในการเป็นคุณแม่ไม่ว่าจะทำอะไร คุณแม่มักคิดทำอย่างไรงานถึงจะไม่ชักช้า คิดจนได้วิธี ซึ่งพอนำการคิดเช่นนี้ไปใช้กับการประกอบการไม่ต้องสงสัยกิจการจะต้องได้รับความสำเร็จ โดยยังอาจสำเร็จในเวลาทันใจ
แล้วมาถึง
อันดับที่สาม คุณแม่มักเป็นบุคคลที่รู้จักวิสัยทัศน์ ทั้งการมีและการใช้ ทำไมถึงรู้จัก? ไม่ยากเพราะว่า ตั้งแต่ตั้งครรภ์คุณแม่ทุกคนต่างวางเป้าหมายของการมีลูกไว้ล่วงหน้า โดยหลายคนยังวางไกลขนาดลูกโตเป็นผู้ใหญ่ โตขนาดนั้นแล้วต้องการให้ลูกเป็นอะไร การรู้จักวิสัยทัศน์จำเป็นในการจะเป็นผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จ เพราะทุกขณะจะมีสิ่งเก่าและสิ่งใหม่เคลื่อนเข้าตัว
พอเห็นหรือได้ยินสิ่งเหล่านี้แล้ว ผู้ประกอบการจะต้องมีวิสัยทัศน์มองไปข้างหน้า เพื่อดูว่ามีอะไรที่จะเป็นประโยชน์ต่อกิจการ ประเด็นนี้รวมทั้งการเปลี่ยนทิศทางการประกอบการ ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาที่ผู้ประกอบการอาจจะต้องเปลี่ยน ถ้าเห็นอะไรที่ดีกว่า ทั้งนี้ทั้งนั้นอย่าคิดการทำเช่นนี้เป็นความโลเล ผู้ประกอบการที่เป็นคุณแม่มักไม่โลเล เพราะการเลี้ยงลูกสอนให้รู้อะไรควรหรือไม่ควรเปลี่ยน
อันดับที่สี่ ผู้ประกอบการที่เป็นคุณแม่ต่างรู้วิธีสร้างแรงบันดาลใจและกระตุ้นคนงานให้ทำงาน ทำไมถึงรู้? คำตอบคือ เพราะคุณแม่ต้องทำเช่นนี้ตลอดเวลากับลูก เพื่อให้เขาหรือเธอตื่นตรงเวลา ให้ขยันเรียนหนังสือ ให้รู้จักช่วยทำงานบ้านฯ การสร้างแรงบันดาลใจและการกระตุ้นให้ผลดีกว่าการสั่งและการบังคับให้ทำ "ลูกเอ๊ย ช่วยแม่กวาดบ้านหน่อยนะลูก" เป็นคำพูดที่คุณแม่ทุกคนในโลกเคยพูดกับลูก
และอันดับที่ห้า อันดับสุดท้าย ผู้ประกอบการที่เป็นคุณแม่ต่างทราบดีว่า ทั้งการทำธุรกิจและการเลี้ยงลูกเป็นการท้าทายอีกรูปแบบ คนเราทุกคนต่างมีการท้าทาย และเมื่อเผชิญต้องพยายามทำให้สำเร็จ การเลี้ยงลูกท้าทายให้คุณแม่ต้องเลี้ยงให้เขาหรือเธอเติบโตอย่างเหมาะสม พอเป็นผู้ประกอบการ แน่นอนการท้าทายก็คือ ต้องทำกิจการให้ไปรอด และเติบโตจนเป็นกิจการมั่นคงและมั่งคั่ง
มีการสำรวจแล้วกิจการที่มีผู้หญิงเป็นผู้นำมีรายรับจากการประกอบสูงกว่าที่มีผู้ชายเป็นผู้นำร้อยละ 12 โดยเฉลี่ย และส่วนใหญ่ยังเป็นกิจการที่รับมือภัยทางการเงินและการตลาดดีกว่า
แล้วจะพาไปดูผู้ประกอบการคุณแม่ตัวแม่ในฉบับหน้า
บรรยายภาพ
1. คุณแม่สมัยนี้เลี้ยงลูกไปด้วย ค้าขายไปด้วย
2. ร้านกาแฟดังร้านนี้เป็นของผู้ประกอบการคุณแม่
3.การเลี้ยงลูกบ่มเพาะนิสัยผู้ประกอบการ
|
Last Updated ( Monday, 17 February 2020 )
|